วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

ปิดฉากยิ่งใหญ่อลังการ สมโภชพระอาราม ๑๙๑ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

ปิดฉากยิ่งใหญ่อลังการ สมโภชพระอาราม ๑๙๑ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
สะท้อนความสัมพันธ์อันเหนียวแน่น ๓ ศาสนา ๔ ความเชื่อ ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับงาน สมโภชพระอาราม ๑๙๑ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ที่เกิดขึ้นจากการผสาน  ความร่วมมือกันระหว่าง มูลนิธิสิริวัฒนภักดี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ ชุมชนย่านกะดีจีน-คลองสาน ในการจัดงาน ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๕ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการะและเสริมความเป็นสิริมงคลตลอดปี ๒๕๖๒  ต้อนรับปีกุน  ตลอดการจัดงาน ๓ วัน ๓ คืน ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยธีมงานแต่งกายด้วย ผ้าขาวม้าไทย” เพื่อสืบสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยสู่สากล

 พระพรหมบัณฑิต  เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร  กล่าวว่า  หลังจากที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร  ประสบความสำเร็จในการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ จนได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ ๑ หรือ Award of Excellence ด้านการอนุรักษ์
มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิก จากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์
  และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ๒๕๕๗ ทางวัดจึงมีแนวคิดที่จะขยายความสำเร็จนี้ไปสู่ชุมชน โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทางวัดยึดหลักพุทธภาษิตที่ว่า ปุราณํ นาภินนฺเทยฺย นเว ขนฺติ มกุพฺพเย ” “อย่าหลงของเก่าอย่าเมาของใหม่” ซึ่งหมายถึง อะไร ที่เป็นของเก่าอาจจะนำมาปรับแต่งใหม่
ได้บ้าง อย่าไปยึดติดเกินไป และอย่าเมาของใหม่ คืออย่าไปทิ้งคุณค่าเดิมของชุมชนของวัดของศาสนา แต่ให้นำมาผสมผสานให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้จากความสำเร็จจากการได้รับรางวัลยูเนสโก มาปรับใช้ในการจัดงาน ได้แก่ ข้อหนึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาบูรณะของเก่า แต่ยังคงรักษาความเป็นของเก่าไว้ได้อย่างกลมกลืน ข้อสองเมื่อเราได้บูรณะแล้ว
คุณค่าเดิมก็ยังอยู่ และข้อสามซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งก็คือการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นความงดงามและความร่วมมือของย่านกะดีจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นในงานสมโภชนี้ เราจะได้เห็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการบริหารจัดการแบบที่เรียกว่า บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) โดยเฉพาะในเรื่องของศาสนสถาน ที่ไม่ได้มีแต่เพียงความบันเทิง ในการจัดงานทุกครั้งจะมีหนึ่งวันให้พบกับผู้นำทางศาสนา ๓ ศาสนา ๔
ความเชื่อ สะท้อนให้เห็นว่าต่างศาสนาแต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข บรรพบุรุษของเราอยู่กันมาอย่างไร ๒๐๐ กว่าปีตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีจนมาถึงวันนี้ จึงหวังว่าชุมชนเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานครคือกะดีจีน-คลองสานจะได้รับการรักษาวัฒนธรรมและเป็นต้นแบบในการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและสันติสุข สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแต่ความคิดแต่เป็นผลปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างที่งานสมโภชนี้ได้แสดงให้ปรากฏ ซึ่งต้องขอขอบคุณมูลนิธิสิริวัฒนภักดีที่ให้การสนับสนุนการจัดงานอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา

โดยภายในงานสมโภชพระอาราม ๑๙๑ ปี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จัดเต็มด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้งกิจกรรมเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตและครอบครัวต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๒ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ  พระพุทธนาค พระพุทธธรรมวิเชษฐศาสดา พระพุทธนาคปรกพันปี หลวงพ่อแขก และขรัวแก้ว และชมความงดงามพร้อมลอดพระบรมธาตุมหาเจดีย์หนึ่งเดียวของไทยที่คว้า



รางวัลยอดเยี่ยมระดับโลกจาก UNESCO การเสวนา ๓ ศาสนา หัวข้อ จิตอาสากับการพัฒนาย่าน กะดีจีน”  โดยพระพรหมบัณฑิตและผู้นำศาสนาต่าง ๆ พร้อมชมมหรสพที่หาชมได้ยาก และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ที่เป็นการแสดงจากความร่วมมือร่วมใจของชาวชุมชน การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การประกวดอาหาร ๓ ศาสน์ สนุกสนานกับรำวงมาตรฐานย้อนยุคในบรรยากาศงานวัดร่วมสมัย และเพลิดเพลินกับเกมงานวัดอีกมากมาย พร้อมเที่ยวชมตลาดชุมชน ชิมอาหารนานาชนิดของชาว กะดีจีน-คลองสาน และร้านค้าประชารัฐรักสามัคคี กว่า ๙๑ ร้านค้า และปิดท้ายความสวยงามด้วยพลุไฟสุดตระการตาสมการรอคอยงานยิ่งใหญ่ประจำปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น