วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

Kotakinabalu โคตาคินาบาลู ธรรมชาติเหนือจินตนาการ

Kotakinabalu  โคตาคินาบาลู ธรรมชาติเหนือจินตนาการ

การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ หลายต่อหลายคนที่อยากจะไขว่คว้าหาความสุขในวันพักผ่อนเพื่อเติมเต็มอารมณ์สร้างสุนทรีในชีวิตให้เต็มปรี่ แต่แหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายนานัปการอยู่ทั่วโลกให้คุณเลือกตัดสินใจในช่วงวันหยุดพักผ่อนสำหรับหน้าร้อนนี้ ที่ KINABALU เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใกล้ ๆ คุณ SABAH มาเลเซีย
เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทยสมายล์ ไฟลท์แรกมุ่งตรงสู่ “คินาบาลู” คณะเราที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้มี 14 ท่าน ต่างรู้จักและคุ้นเคยกันดีอยู่บ้างในการออกทริปที่ผ่านมา 2 ชั่วโมงเศษ ๆ เราถึงท่าอากาศยานคินาบาลูได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวมาเลเซียและ สายการบินไทยสมายล์อย่างอบอุ่น จากนั้นเข้าที่พักวางสัมภาระเพื่อเตรียมไปรับประทานอาหารมื้อแรกของการเดินทาง เป็นมื้อเย็นที่สร้างบรรยากาศให้เห็นถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชนท้องถิ่นแห่งนี้เหมือนข้าวห่อใบบัวบ้านเรา แต่เป็นการเอาใบตองวางบนภาชนะและให้เราเลือกอาหารตามที่ชอบหยิบวางใส่จานไม่ว่าจะเป็นข้าวสวยนึ่งหอมกลิ่นมะพร้าวอ่อน หรือข้าวกล้อง พร้อมด้วยอาหารหลากหลายที่วางเรียงรายสไตล์บุฟเฟต์ทั่วไป ไก่ทอดสมุนไพรอาจจะเป็นเมนูเด็ดที่ทุกคนต้องหยิบติดจานเนื่องจากทานง่ายที่สุดเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารจะสัมผัสได้กับกลิ่นเครื่องเทศของที่นี่ ที่ถึงเครื่องถึงรสเลยทีเดียวสำหรับโปรแกรมแรกในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยการนำของไกด์ท้องถิ่นพาเราไปล่องแก่งที่ซาบาห์ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองมาล่องแก่งประมาณชั่วโมงเศษ จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำบรรยายถึงวิธีการลงเล่นเพื่อรับความพร้อมในทุกสถานะถึงน้ำจะไม่เยอะ ไม่แรงนักแต่ทำเอาคณะเราได้ส่งเสียงเฮลั่นตลอดทาง ได้เปียกปอนเพราะตกน้ำกันทุกคน ถึงแม้ผมจะไม่ได้ลงล่องแก่งกับเขาด้วย แต่สัมผัสได้กับความสดชื่นของน้ำที่เย็นใสเพราะไหลผ่านเกาะแก่งและแรงบ้างในท่วงที ผมลงไปยืนในน้ำรู้สึกและสัมผัสได้กับพื้นทรายละเอียดที่แตกตัวจากหินภูเขา ถ้าทรงตัวไม่ดีอาจยุ้มลงไปได้ต่างจากบ้านเราบางที่ที่เคยไป จะเจอเป็นโขดหินแข็งเป็นส่วนใหญ่ กลับจากการล่องแก่ง ในตอนเย็นแดดเริ่มร่ม ลมกำลังโชยอ่อน ๆ เราได้ไป Dinner สัมผัสบรรยากาศยามเย็นบนเรือ North Borneo CRUISES ภายในเรือมีนักดนตรีและนักร้องมาขับกล่อมให้เรารู้สึกผ่อนคลาย พร้อมเสริฟไวน์ให้จิบไปตลอดการล่องเรือหรูที่ไม่แออัดด้วยนักท่องเที่ยวจนเกินไป แบบพอดี ๆ 15 – 20 คนบนเรือลำนี้ ไฮไลท์ของการล่องเรือยามเย็นคือจะได้เห็นแสงอาทิตย์ค่อยอ่อนตัวลงสู่ผืนน้ำ หรือที่เรียกว่า ทไวไลท์ เช้าวันรุ่งขึ้นไกด์พาเราขึ้นรถบัสไปจุดชมวิว “เทือกเขาคินาบาลู” ที่ตั้งสูงตระหง่าน 4,095.2 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จัดเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่กระมังครับที่บรรดานักท่องเที่ยวหรือนักผจญภัยชอบปีนเขาต่างใฝ่ฝันที่จะมาพิชิตกันที่นี่ เพราะความมหัศจรรย์แห่งขุนเขา ที่ตั้งสูงชันเมื่อมองระยะใกล้ จึงดูตื่นตาและสวยที่สุดท่ามกลางอุทยานคินาบาลู บนเกาะบอร์เนียว ของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย

รัฐซาบาห์ ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่า “ดินแดนใต้ลม” ที่ในวันนี้เรามาถึงก็ยังมีลมพัดโชยอ่อน ๆอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะฝนที่ตกโปรยปรายลงมา แต่ไม่ถึง กับหนักนัก ทำให้มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 28 – 30 องศา ซึ่งเป็นระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของซาบาห์ตลอดทั้งปี ระหว่างที่รถบัสพาคณะเราแล่นเลาะ ตามไหล่เขาเพื่อไปยังจุดชมวิว มองผ่านนอกหน้าต่างเราต้องอ้าปากค้างกับความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาที่สูงใหญ่อลังการห้อมล้อมและปกคลุมด้วยเมฆหมอก มันช่างยิ่งใหญ่งดงามเหนือจินตนาการดังที่เราเกริ่นหัวไว้ เมื่อถึงที่หมายต่างกระจายหาจุดโฟกัสที่สวยที่สุดของมุมมองแต่ละคน จะว่าไปแล้วไม่ว่ามองมุมไหนก็เหนือคำบรรยายจริง ๆครับ รอบ ๆบริเวณ ก็ยังมีร้านรวงริมสองข้างทางขายของฝากเหมือนแหล่งท่องเที่ยวบ้านเรา เช่นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภูเขา น้ำตก แต่เห็นได้เด่นชัดที่สุดของแต่ละร้านที่คินาบาลู ก็คือกล้วยหอม และกล้วยน้ำว้า เกือบทุกร้านจะต้องมีแขวนห้อยหน้าร้านสีเหลืองสะดุดตาจนอดใจไม่ไหวต้องเก็บภาพกลับมาฝากกันอย่างที่เห็น จากจุดชมวิวมาแวะเปลี่ยนรถ ลดขนาดเพื่อเหมาะแก่การเดินทางเป็นรถตู้เข้าสู่ฟาร์มโคนม Desa Cattle (Sabah) Sdn Bhd หรือเรียกว่า ฟาร์มเดซาด้วยระยะทางกว่า 40 กิโลเมตรจากจุดชมวิว ภายในฟาร์มโคนมเดซาแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างขวางจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจและสำหรับนักแช็ท นักแชร์ และเซลฟี่ทั้งหลาย เพราะมีมุมสวย ๆให้เลือกเก็บภาพของทุ่งหญ้าที่มีสัญลักษณ์รูปวัวไว้เป็นจุด ๆ อีกทั้งต้นสนที่ตั้งเรียงราย รอบรั้วฟาร์มสีเขียวเข้ม เต็มผืนฟาร์มเข้ากับความงามตามฤดูที่เป็นอยู่ ฟาร์มเดซา เป็นแหล่งผลิตชีสและโยเกิร์ต รวมถึงช็อกโกแลตที่ทำจากนมวัว บางเวลาถ้าไปได้จังหวะดี จะมีการแสดงรีดนมวัวและขั้นตอนการผลิตนมวัวให้ได้ชมกัน ขอบอกว่า ไอศกรีมของที่ฟาร์มเดซาอร่อยมาก ราคาก็ไม่แพง อยู่ที่ 5.3 RM หรือประมาณ 40 บาทไทย มีรสชาติหอมนุ่มนวลกับกลิ่นนมละมุนลิ้นอยู่ลึก ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับช่วงเวลายามบ่ายที่อยากจะพักผ่อน แบบสบาย ๆ ได้บ้าง ใกล้ ๆกันเราเลยไปเที่ยวต่อที่ Fish massage หรือสปาปลา เป็นฟาร์มปลาที่นักท่องเที่ยวสามารถถอดรองเท้าลงไปยืนในลำธารที่มีปลานานาชนิด มารายล้อมรอบโคนขาหรือรอบเท้าเรา กัดตอดแบบจุ๊บจิ๊บ ๆ สะกิดให้รู้สึกสนุกตื่นตาไปกับฝูงปลานับร้อย ๆตัว พร้อมกับให้อาหารปลาชนิดว่าป้อนกับปากได้เลยทีเดียว ฟาร์มปลา หรือ สปาปลาแห่งนี้ ชื่อว่า TAGAL LUANTI FISH MASSAGE มีค่าผ่านประตูอยู่ที่ท่านละ 5 .00 RM สำหรับเด็กเล็ก 6 – 12 ปี ราคา 2.00 RM เปิดบริการตั้งแต่ 8.30 am – 5.00 pm ถ้าหลัง 5 โมงเย็นไปแล้ว ฟรี

ยามค่ำคืน ผมออกมาเดินชมบรรยากาศกับพี่ที่ร่วมทริปมาด้วยกัน ใกล้ ๆที่พักจะมีตลาดกึ่งโต้รุ่งขายอาหารทะเลสดบริการปิ้งย่าง หรือสั่งทำได้สารพัดเมนู เหมือนร้านอาหารตามสั่งบ้านเรา แต่ตลาดที่นี่จะมีแต่สัตว์ทะเลสด ๆ อย่างกุ้ง หอย ปู ปลา ตัวใหญ่ ๆ มาวางเรียงรายเรียกน้ำย่อยให้บรรดานักชิมหรือนักท่องเที่ยวได้ฝากท้องเป็นอาหารค่ำได้อย่างเอร็ดอร่อย 

อาหารของชาวคินาบาลูส่วนใหญ่จะเน้นเครื่องเทศรสชาติแบบเข้มเต็มสูตร และจะมีส่วนผสมของมะพร้าวในการประกอบอาหารจึงมีกลิ่นมะพร้าวหอมอบอวลให้รู้สึก คงเป็นเพราะคินาบาลูเป็นเมืองที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ ที่รายล้อมด้วยพืชสวนอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยผลผลิตที่วางขายอย่างมะพร้าวจะมีลูกใหญ่โตเป็นพิเศษ จัดเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของซาบาห์เลยก็ว่าได้ แม้แต่ข้าวสวยที่ทานกันอยู่ทุกมื้อ ก็จะใส่มะพร้าวอ่อน ในการหุงเป็นหลัก เช้าวันรุ่งขึ้นของการเดินทางกลับ ผมตื่นเช้าหน่อยชวนพี่ที่อยู่ร่วมห้องไปเดินชมตลาดเช้าที่สะพานปลา เป็นสไตล์ของผมที่ชอบเสาะหาวิถีความเป็นอยู่ของชนในพื้นที่นั้นๆ ในครั้งนี้ ผมกลับรู้สึกโชคดีที่โรงแรมของเราตั้งอยู่ใกล้ท่าเทียบเรือประมงแบบไม่ห่างไกลนัก ผมเดินลัดเลาะท่าเทียบเรือจนถึงตลาดสดอาหารทะเลที่นำขึ้นจากเรือแบบสด ๆ และวางขายกันในตลาดโดยมีแม่ค้าพ่อค้าบริการทำปลาให้กับผู้ซื้อในเดี๋ยวนั้น ความเจริญของเมืองคินาบาลูเติบโตอย่างรวดเร็ว ใจกลางเมืองมีตึกใหญ่อาคารสูงผุดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่เป็นระยะเว้นแค่เพียงช่วงคั่นของถนนแต่ละสาย อย่าง Suria Sabah หรือ วิสมา เมอร์เดกา เป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของชาว คินาบาลู ที่มีสินค้ามากมายหลากหลายชนิดและทันสมัยเหมือนเมืองหลวงทั่วไป ผู้คนชาวคินาบาลู ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเป็นความสมบูรณ์ของคนเมืองที่อยู่ร่วมกันอย่างไม่มีเส้นแบ่งเขต เหมือนอย่างท่าเทียบเรือและสะพานปลา รวมถึงตลาดสดอาหารทะเลทุกชนิด ที่ตั้งห่างจากศูนย์รวมความเจริญอย่างห้างสรรพสินค้าและโรงแรมระดับหรูเพียงแค่มีถนนสายหลักคั่นกลางเท่านั้น ...

ที่นี่ Kinabalu แบบเรียบง่ายเป็นความสมบูรณ์ของคนเมืองที่อยู่ร่วมกันอย่างไม่มีเส้นแบ่งเขต เหมือนอย่างท่าเทียบเรือและสะพานปลารวมถึงตลาดสดอาหารทะเล ทุกชนิด ที่ตั้งห่างจากศูนย์รวมความเจริญอย่างห้างสรรพสินค้าและโรงแรมระดับหรูเพียงแค่มีถนนสายหลักคั่นกลางเท่านั้น...ที่นี่ Kinabalu

ขอขอบคุณ

การท่องเที่ยวมาเลเซีย

Mr. Abdul Haris Hadi Director of Tourism Malaysia Thailand

คุณวราภรณ์ เทียมตระกูล เจ้าหน้าที่บริหารการตลาด การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย

สายการบินไทยสมายล์

www.aboutinformant.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น