วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

ใหม่! Punthai Portable Hand Brew Set พกพาง่าย ได้อารมณ์บาริสต้า


พันธุ์ไทยให้คุณเป็นบาริสต้าง่ายๆ ได้ทุกที่กับ “Punthai Portable Hand Brew Set” ชุดเครื่องบดกาแฟแบบพกพา ขนาดกระทัดรัด ดีไซน์เรียบเท่ วัสดุคุณภาพดีผลิตจาก Stainless Steel 304 ตกแต่งด้วยปลอกหนังพียูสีน้ำตาลสุดคลาสสิก จับถนัดมือ ในเซ็ตประกอบด้วย

  • เครื่องบดกาแฟมือหมุนแบบ Grinder Burr ช่วยบดเมล็ดกาแฟให้มีความละเอียดเท่ากัน ทำให้คงรสชาติและความหอมของกาแฟไว้ได้อย่างดี

  • ดริปเปอร์ หรือ ถ้วยดริปกาแฟแบบพับได้พร้อมฐานรอง ผลิตจากวัสดุซิลิโคนฟู้ดเกรด คุณภาพสูง มาตรฐาน LFGB 

  • กล่องใส่เมล็ดกาแฟขนาด 120 ml. สามารถบรรจุเมล็ดกาแฟได้ถึง 45 กรัม

  • แก้วกาแฟจากวัสดุสแตนเลสอย่างดี ขนาด 300 ml.

  • กระดาษฟิลเตอร์ จำนวน 20 ชิ้น

  • กระเป๋าผ้า EVA Oxford ขนาด 22.0x18.3x10.6 ซม. น้ำหนักเบา มีซิปเปิด-ปิดง่าย จัดเก็บอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ

อากาศแบบนี้ ไม่อยากออกไปไหน มาดริปกาแฟในสวนหลังบ้านก็ชิลล์ได้ หรือสแตนบายไว้ออกเดินทางพกพาไปได้ทุกที่ พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ในราคาเพียงเซ็ตละ 2,200 บาท พิเศษ! รับฟรี เครื่องดื่มร้อนหรือเย็น 1 แก้ว ราคาปกติสูงสุด 65 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2567 – 15 พฤษภาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาที่ร่วมรายการ และบริการเดลิเวอรีจัดส่งถึงบ้าน หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shopee.co.th/punthaicoffee_officialshop รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/punthaicoffee หรือ www.punthaicoffee.com


📌เงื่อนไข:

*สินค้ามีจำนวนจำกัด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่พนักงานสาขา

*รับฟรี เครื่องดื่มร้อน หรือ เย็น 1 แก้ว (เมนูปั่นไม่ร่วมรายการ) ราคาปกติสูงสุดไม่เกิน 65 บาท

*ไม่สามารถเพิ่มเงินส่วนต่างในการเปลี่ยนเมนูที่ราคาเกิน 65 บาทได้ 

*สามารถใช้สิทธิ์รับเครื่องดื่มฟรี เมื่อซื้อสินค้าที่หน้าร้านเท่านั้น บริการเดลิเวอรีและสั่งซื้อออนไลน์ไม่ร่วมรายการ

*ต้องใช้สิทธิ์รับเครื่องดื่มฟรีทันที โดยไม่สามารถเก็บสิทธิ์ไปใช้ภายหลังได้

*สิทธิ์รับเครื่องดื่มฟรี ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินหรือโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้

*ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดหรือโปรโมชั่นอื่นๆ ได้

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า



วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567

วธ.แถลงเปิดตัวแอนโธเนีย “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” และเพลงสงกรานต์ ภาษาต่างประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วม พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศ

วธ.แถลงเปิดตัวแอนโธเนีย “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” และเพลงสงกรานต์ ภาษาต่างประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วม พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศ

 (๔ มี.ค. ๖๗) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานงานแถลงข่าว เปิดตัวนางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ประจำปี ๒๕๖๗ และเพลงสงกรานต์ ฉบับภาษาต่างประเทศ ในโอกาสที่ องค์การยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ พร้อม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ เจ้าของและผู้จัดการวงดนตรีสุนทราภรณ์  รศ.ดร.จารุณี หงส์จารุ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   นายพหลยุทธ กนิษฐบุตร รองอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และ นางนฤมล เลี้ยงรักษา รองประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

นายเสริมศักดิ์ ประธาน กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ด้านเฟสติวัลและด้านการท่องเที่ยวรองรับ Thailand Creative Content Agency (THACCA) และในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดนโยบายภายใต้ซอฟต์พาวเวอร์ “สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก” เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชนและชุมชนและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ โดยประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year Festival)” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา


“ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นประเพณีแห่งความสุข ความอบอุ่น อ่อนโยน เต็มไปด้วยบรรยากาศของความกตัญญู ความสนุกสนาน ความเอื้ออาทรและการให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน โดยใช้ “น้ำ” เป็นสื่อในการสร้างสัมพันธไมตรี ในปี ๒๕๖๗ นี้รัฐบาล โดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนกำหนดจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival : ประเพณีสงกรานต์ไทย หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก” ในช่วงเดือนเมษายน โดยมีการจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) และส่วนภูมิภาค จึงขอเชิญชวนคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกร่วมงานดังกล่าว เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ และร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาประเพณีสงกรานต์ อันทรงคุณค่าของประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป นายเสริมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ในโอกาสที่ประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year Festival)” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากองค์การยูเนสโก ได้แก่ การจัดทำบทเพลงสงกรานต์ ฉบับภาษาต่างประเทศ จำนวน ๔ ภาษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาฝรั่งเศส เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้รับรู้ถึงคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง เป็นการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศเพื่อยกระดับและพัฒนาด้านความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ ให้แก่ประเทศไทย




นายโกวิท กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้แต่งตั้งนางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองนางงามจักรวาลอันดับ ๑ ประจำปี ๒๐๒๓ เป็น “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ เพื่อร่วมถ่ายทอดคุณค่าสาระและแสดงอัตลักษณ์ของประเพณีสงกรานต์ไทย สำหรับกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ สวธ.มีการจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลางกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค จึงขอเชิญชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศร่วมงานดังกล่าวเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

นางนฤมล เลี้ยงรักษา รองประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมงานประเพณีสงกรานต์ถือเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ของแต่ละชุมชนที่ทางสภาวัฒนธรรมกรุงเทพฯเองได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ทั้ง 50 เขตมาอย่างต่อเนื่องถือเป็นการส่งเสริมด้านศาสนาและวัฒนธรรม การแสดงออกถึงการละเล่นพื้นบ้าน การแสดงออกของกิจกรรมในครอบครัวที่ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรในวันสงกรานต์ แต่ละชุมชนยังมีการประกวดนางสงกรานต์สร้างความสามัคคี สนุกสนาน กระจายรายได้สู่ชุมชน  และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย


 

ภายหลังช่วงแถลงข่าวประธานได้มอบจักรและตรีศูล สัญลักษณ์ของนางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗ และมอบเกียรติบัตร ให้แก่นางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ ๑ มิสยูนิเวิร์ส ๒๐๒๓ ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗” ต่อด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมชุด “ตำนานนางสงกรานต์” โดยแอนโทเนีย โพซิ้ว และการแสดงบทเพลง “เริงสงกรานต์” ฉบับภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ โดยคณะนักร้องคลื่นลูกใหม่ของวงดนตรีสุนทราภรณ์  จากนั้น เป็นการแสดงบทเพลง “สงกรานต์” (เพลงแต่งใหม่โดย รศ.ดร.จารุณี หงส์จารุ) ฉบับภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ บรรเลงโดย วงดนตรีเฉลิมราชย์  และการแสดงขับร้องบทเพลงเริงสงกรานต์ ฉบับภาษาจีน โดย ส.ว.ประเสิรฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ร่วมกับคณะเม้ง ป.ปลา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม สรงน้ำพระพุทธรูป การสาธิตการจัดประเพณีสงกรานต์ จากสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดภูเก็ต อีกด้วย


 ทั้งนี้ สวธ. ขอเชิญร่วมกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗ ประกอบด้วย

-งานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ อาคารเอนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗  -นิทรรศการ สงกรานต์ไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ๑๐ - ๑๒ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ณ ลานกลางแจ้งหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร (BACC)  -งานสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ระหว่าง ๑๒ - ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗  และ กิจกรรมการแสดงสืบสานประเพณีสงกรานต์ ในงานใต้ร่มพระบารมี ๒๔๒ กรุงรัตนโกสินทร์ ในวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ ณ เวทีการแสดง สังคีตศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นต้น


นางสงกรานต์ ทรงนามว่า มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลัง มยุรา (นกยูง) เป็นพาหนะ

#นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๗

#สงกรานต์ในประเทศไทย

#kaomaadoo.net

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

“สุดาวรรณ”ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567“

สุดาวรรณ”ประกาศเป้าหมายการทำงานปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยให้ได้ 1% ของอุตสาหกรรมกีฬาโลก คิดเป็น มูลค่า 455,800 ล้านบาท วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นขุมพลังใหม่
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอประกาศนโยบายที่สำคัญที่จะ “พลิกโฉมการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย” ด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยที่มีเพียง 0.58% ในขณะนี้ให้เป็น 1% จากอุตสาหกรรมกีฬาโลกที่มีขนาด 45.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 455,800 ล้าน บาทให้ได้
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว มีความมุ่งมั่นและตั้งใจว่าในปี 2567 เราจะเติบโต ไปพร้อมๆ กัน จับมือไปด้วยกันกับทุกภาคส่วน ดิฉันจะเน้นการบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จะพูดจากันมากขึ้น บูรณาการกันมากขึ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างว่องไว” สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ นโยบายแรก คือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 จากเชิงปริมาณเข้าสู่โหมดของคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย“
“ประเทศไทยต้องมี High season on year round tourism destination คือ เที่ยวได้ทั้งปี หรือเที่ยวได้ ทั้ง 365 วัน จึงได้เตรียม Event ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ที่จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะยูเนสโก้เพิ่งประกาศขึ้นทะเบียนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ จึงต้องยกระดับกิจกรรม Event ต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็น Event ในระดับนานาชาติ เป็นการกระตุ้นการไปท่องเที่ยวเมืองรอง จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตลาดเดิม และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง”
นโยบาย 2 กระทรวงฯจะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น “Engine the New Power” และจุดเด่นของ Soft Power ก็จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี
นโยบายที่ 3 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety โดยต้องทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย” มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา
นโยบายที่ 4 เรื่อง Responsibility เราต้องทำให้การท่องเที่ยวนั้นยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่พูดกันมานานแล้ว แต่ในปี 2567 จะนำเรื่องนี้มาขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจริงๆ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต่อเมื่อ “ท้องถิ่น” ต้องมาร่วมขับเคลื่อนด้วยกัน
นโยบายที่ 5 จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนนี้ จะมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญคือ ASEAN Connect ที่จะทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก

นโยบายที่ 6 มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก

นโยบายที่ 7 การเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่/ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์/ จักรยานยนต์โมโตจีพี/ เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก/ ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024/ รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่ง มี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เศษ เกินกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แต่สรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565

ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาของเรามีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก

www.aboutinformant9.blogspot.com

kedsaraporn pnussuwonkiri

tel.095-5516-345