วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2566

KRONOS เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ ท้าชน บิ๊กไบค์ HYDRA แกร่ง แรง ประหยัดกว่า

KRONOS เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ท้าชน บิ๊กไบค์ HYDRA แกร่ง แรง ประหยัดกว่า
         เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ใหม่ ขุมพลังแรง ประหยัดพลังงาน KRONOS BIGBIKE HYDRA พันธุ์ไทยแท้อย่างเป็นทางการ ในงาน MOTOR EXPO 2023 มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 11 ธ.ค. 2566 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี (Hall 3.1) ขนทัพรุ่น TOP มาโชว์ในงาน ท้าชน บิ๊กไบค์ ด้วยรุ่น HYDRA
ผงาดเหนือกว่าใคร พร้อมจำหน่ายทั่วประเทศ ชูนวัตกรรม Green Energy ELECTRIC BIKE ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมเปิดงาน
ดร.พุฒธิพงศ์ ทองวิมล ประธานบริษัท รุ่งอรุณ บรอดคาสติ้ง จำกัด และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง นายเฮนรี่ เซ็ง ผู้บริหารบริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโครนอส โดยมี
ว่าที่ร้อยตรี หม่อมราชวงศ์นิวัติ กัลป์ยาณวงศ์ นัดดาใน นายร้อยเอกมหาอำมาตย์ตรี นายกองตรีเสือป่า พระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา (พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัลยาณประวัติ) ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมจิตอาสาต้นกล้าความดี มาเป็นประธานเซ็น MOU พร้อมเปิดงาน
ภายในงานเปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ใหม่ประหยัดพลังงานด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าตามกระแสนิยมเรื่องการประหยัดพลังงาน ด้วยนโยบายรัฐบาลให้มีการส่งเสริมการใช้รถยนต์ จักรยานยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดปัญหามลภาวะที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และช่วยส่งเสริมภาครัฐการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงน้ำมัน
เปิดตัวคู่พันธมิตร 2 บริษัท เซ็น MOU ชูนวัตกรรมด้านการผลิตชิ้นส่วนและประสิทธิภาพของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยเจ้าแรก สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ดร.พุฒธิพงค์ ทองวิมล ประธานบริษัท รุ่งอรุณ บรอดคาสติ้ง จำกัด และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง กล่าวว่า วันนี้เรามีการเซ็น MOU ระหว่าง 2 บริษัท ซึ่งเราในนามบริษัท รุ่งอรุณบรอด์คาสติ้ง จำกัด กับ บริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตอะไหล่ของดีพาร์ตทั้งหมดรวมถึงวัสดุก่อสร้างที่ดำเนินการมากว่า 40 ปี ซึ่งเรามองเห็นถึงการจะทำธุรกิจร่วมกันในเรื่องของ EV ด้วยกระแสในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในเรื่องของรถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
เราในฐานนะที่มีฐานการผลิตจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ และด้วยมอเตอร์ไซค์ที่เรานำเสนอเป็นรูปแบบที่ใหม่น่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปลักษณ์ สี ขนาด บอกได้ว่าเป็นคันเดียวในประเทศไทยที่สามารถชาร์จได้ที่ปั๊มให้บริการของรถยนต์ไฟฟ้าทุกที่ได้ หรือเรียกว่า Type 2

   บริษัท รุ่งอรุณบรอด์คาสติ้ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินกิจการคลอบคลุมในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น 1.ลิขสิทธิ์ของไปรษณีย์ การขนส่ง 2.ธุรกิจด้านการโรงแรม 3.ร้านกาแฟ 4.ด้านการสื่อสาร หรือมีเดียออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง

สำหรับการเซ็น MOU ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่เราดำเนินการอยู่ เรามองในภาพกว้าง มองอนาคตในแบบหลายมิติที่สามารถเชื่อมและ Matching กับธุรกิจได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่งทางไปรษณีย์ เราสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS ที่มีคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานเชื้อเพลิง เรามองถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดต่อสังคม ช่วยลดมลภาวะทั้งในเรื่องเสียง และควันพิษที่จะส่งผลกระทบต่อส่วนรวม และนอกจากนี้ยังใช้ในกิจการอื่น ๆ เช่น ร้านกาแฟ ธุรกิจโรงแรม เรายังใช้ในเรื่องของธุรกิจการจัดส่ง การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งการท่องเที่ยวของไทยในทุกวันนี้ยังมีสิ่งน่าอัศจรรย์ด้านแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังให้ความนิยมตลอดทั้งปี
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KRONOS เป็นรถที่ตอบโจทย์ในเรื่องของพลังงานสะอาด Green Energy ลดโลกร้อน ลดมลภาวะทางเสียง ควันพิษ สำหรับสินค้าในแต่ละรุ่นตอนนี้เรามีการจัดจำหน่ายผ่าน Shop หรือดีลเลอร์ ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อได้ตาม Shop ใกล้บ้านที่สะดวก กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้คือ คนทำงาน เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันแน่นอนเราถูกกว่ามาก ราคาเริ่มต้นที่ 50,000 ต้น ๆ เหมาะแก่คนที่มีรายได้ตั้งแต่ 8,000 กว่าบาทก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ทั้งเงินสด และเงินผ่อน ซึ่งเรามี Leasing หรือสถาบันการเงินพร้อมให้บริการทั้ง กรุงศรี หรือ อิออน พร้อมอยู่แล้ว เรื่องการประหยัดพลังงานหรือค่าใช้จ่าย การขับขี่ทั้งวัน 120 กิโลเมตร คุณจ่ายค่าไฟไม่ถึง 20 บาท คุ้มค่ากว่าแน่นอน ด้านคุณวิไลพร แย้มเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมิดะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นบริษัทผลิตอะไล่รถยนต์ ปัจจุบันเราทำเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ KRONOS เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย 100% โดยผลิตที่ประเทศไทย กำลังการผลิตอยู่ที่ 300 – 500 คัน/เดือนทุกรุ่น เป็นรถที่ประหยัดพลังงานอย่างมาก เพียง 100 กิโลเมตร ใช้ค่าไฟจากการชาร์จหนึ่งครั้งเพียง 20 บาท เท่านั้น ซึ่งเรามีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นส่วนของ บิ๊กไบค์สำหรับผู้ชายที่ขับขี่ไปทำงาน หรือรุ่น สกู๊ตเตอร์ ที่เหมาะกับกลุ่มแม่บ้านที่ขับขี่ไปจับจ่ายซื้อของ หรือใช้ในการบริการส่งของทั่วไป มีจำหน่ายที่เพาเวอร์บายทั่วประเทศ สำหรับที่นำมาออกในงาน Motor Expo 2023 นี้จะเป็นรุ่น Bigbike HYDRA เป็นตัวใหม่ที่สามารถจดทะเบียนได้และขับลงท้องถนนได้
       คุณวิไลพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกรุ่นที่เราออกมานำเสนอในครั้งนี้ มั่นใจได้ว่าได้มาตรฐาน ISO 9001/2015 แน่นอน และเรายังได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันไฟฟ้าทั้งเรื่อง แตร มอเตอร์ แบตเตอรี่ และส่วนอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าให้ได้มาตรฐานตามที่กรมขนส่งระบุด้วยเงื่อนไขทางกฎหมายของประเทศไทย จนได้รับเอกสารรับรองทุกอย่างจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย

      เนื่องจากตลาดบิ๊กไบค์ในตอนนี้คู่แข่งยังมีไม่เยอะ จะพูดได้ว่าเราเป็นเจ้าแรกเลยก็ว่าได้ที่เป็นผู้ผลิตบิ๊กไบค์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขึ้นมา และในช่วงเปิดตัวในงาน MOTOR EXPO 2023 เรามีโปรโมชั่นดี ๆ มานำเสนอในรุ่นของ Bigbike HYDRA จากราคา 290,000 เหลือเพียง 190,000 ลดไปเลยทันที 100,000 บาท

KRONOS เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสายพันธุ์ไทยแท้ ประกอบไปด้วย BIG BIKE ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ 1. HYDRA 2. SCORPION 3. HELLHOUND
มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า 6 รุ่น
1.TRIAD 2. DISRUPTOR 3. RAPTOR 4. VIPER-S 5. TRIAD-S 6. BULLDOG รถจักรยานไฟฟ้าได้แก่ รุ่น STEAMPUNK พร้อมจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียม (LITHIUM NMC BATTERY PACK) 12 AH/ 15 AH/ 20 AH จำหน่ายแบตแห้ง/แบตตะกั่ว (1 SET LEAD-ACID 48 V 20 AH ) จำหน่ายอะไหล่มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า
จุดมุ่งหมายของบริษัทฯ เราคือการผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ถูก เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยบริการรับรองหลังการขายและการดูแลอย่างดีเยี่ยมจากบริษัทฯของเรา
kedsaraporn pnussuwonkiri
0955516345

วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566

AION สุดปัง!!! รับออเดอร์รุ่น AION ES กว่า 850 คัน  รถไฟฟ้า 100% เพื่อการขนส่งสาธารณะ ในงาน Motor Expo 2023

“ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)” มาแรงแซงโค้ง เปิดรับออเดอร์ใหญ่ รุ่น AION ES Model รถยนต์นั่ง 4 ประตู (ซีดาน) รถไฟฟ้า 100% ที่ถูกออกแบบเพื่อการเป็นรถขนส่งสาธารณะ จำนวนกว่า 850 คัน จาก บริษัท อีวี มี พลัส จํากัด บริษัทย่อยอรุณพลัส ของปตท. และบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด
        นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)
เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือเป็นการทำตลาดรถไฟฟ้า EV 100% ในประเทศไทยเป็นปีแรก และได้เข้าร่วมงาน Thailand International Motor Expo 2023 เป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยได้นำรถมาเปิดตัวในงานนี้ จำนวน 4 รุ่นด้วยกัน คือ AION Y Plus 490 Premium, Hyper GT, Hyper HT และ Hyper SSR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ รวมถึง AION ES รถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกในอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทย และถือเป็นโอกาสที่ดีของ “ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย)”
เป็นอย่างมาก ที่ได้รับการสั่งสองรถรุ่น AION ES Model ซึ่งเป็น Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ มาตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่แท็กซี่ในเมืองไทยอย่างลงตัว จาก บริษัท อีวี มี พลัส จํากัด บริษัทย่อยอรุณพลัส ของปตท. และบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ที่มียอดสั่งจองแล้วกว่า 850 คัน AION ES Model เป็นยานพาหนะเพื่อการขนส่งสาธารณะที่เป็น EV 100% รถยนต์นั่ง 4 ประตู ซีดาน 5 ที่นั่ง ที่โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยโทนสีดำ และเบาะหนังสีดำประหยัดพลังงาน พร้อมห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายอย่างจุใจ
AION ES Model มีขนาดตัวถัง ยาว 4,810 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร สูง 1,545 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
AION ES Model สามารถวิ่งได้ไกลหลังจากชาร์จเต็มในระยะทางสูงสุด 442 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 75 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที พร้อมระบบความปลอดภัยอย่างครบวงจร และระบบ Cruise Control อีกด้วย
  นายโอเชี่ยน หม่า ยังกล่าวอีกว่า สำหรับงาน Motor Expo 2023 ในครั้งนี้ บูธ AION ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ที่มาร่วมชมงาน โดยเฉพาะคนกลุ่มที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าเพื่อการประหยัดพลังงานที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ซึ่งในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุด AION Y Plus 490 Elite ราคา 899,900 บาท (ราคาเปิดตัว 1,069,900 บาท) และ AION Y Plus 490 Premium ราคา 999,900 บาท (ราคาเปิดตัว 1,099,900 บาท)
        ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งจอง AION Y Plus ทั้ง 2 รุ่นย่อยในงาน Motor Expo 2023 จะได้รับชุดของขวัญ Deliver Gift ประกอบด้วย สายชาร์จฉุกเฉิน, สาย VTOL, เบาะลม และเต็นท์
เฉพาะผู้ที่จองระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2566 และจดทะเบียนภายใน 31 มกราคม 2567
www.aboutinformant9.blogspot.com
kedsaraporn pnussuwonkiri
0955516345

วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

Bangkok River Festival 2023” ครั้งที่ 9 ชวนลอยกระทงใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก”

ชูแนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” สืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม เน้นหลัก ESG บริหารจัดงานอย่างยั่งยืนทุกมิติ16 พฤศจิกายน 2566

กรุงเทพมหานคร – นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวงาน “Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” สืบสานและต่อยอดกิจกรรมดีงามตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่น ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” ตอกย้ำการเป็นเทศกาลวัฒนธรรมอันดีงาม ที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง และ “Lumphun River Festival” ครั้งที่ 5

โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2566 โดยมี นายสุรพล เศวตเศรนี ประธานการจัดงาน Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย
และ ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลัก Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย พร้อมด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วน ร่วมพิธีแถลงข่าว ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
โดยปีนี้ยังคงเน้นยกระดับการจัดงานให้มีความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมสังคม และการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน (ESG) เป็นการสร้างประโยชน์เพื่อชุมชน โดยการจัดการของชุมชน ด้วยกลยุทธ์ บ.ว.ร.ยกกำลังสอง อันประกอบไปด้วย บ้าน วัด โรงเรียน โดยการสนับสนุนของภาคส่วนภายนอก ได้แก่ บริษัท วิสาหกิจเพื่อสังคม และราชการ เชื่อมโยงและต่อยอดเครือข่ายทุกภาคส่วนเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และต่อยอดคุณค่าทางวัฒนธรรม กับประเพณีลอยกระทงและมงคลอันดีงามของไทย เพื่อตอกย้ำการเป็นเทศกาลของ มงคลดีงาม พร้อมการดูแลรักษ์โลก กับการขอขมาแม่น้ำคงคา ด้วยการรณรงค์ไม่เพิ่มขยะในแม่น้ำ ลำคลอง ผ่านกิจกรรมลอยกระทงและการลอยประทีปใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก”
นายสุรพล เศวตเศรนี ประธานการจัดงาน Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ได้กล่าวถึงรายละเอียดของการจัดงานว่า “ปีนี้นับเป็นการสานต่อความสำเร็จของการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” ชมความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2566 รวม 3 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะมุ่งมั่น ในการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเสริมมงคลตามวิถีไทย ตอกย้ำ ต่อยอด สร้างคุณค่า เพิ่มมูลค่า มรดกของชาติด้วยแนวคิดสร้างสรรค์แบบร่วมสมัย สอดรับกับนโยบายรัฐบาลด้านการส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวโดยชุมชน
เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 1.8 ล้านบาท และในปีนี้ ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยศิลปวัฒนธรรมไทย Soft Power ที่จะช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชน
พร้อมเป็นเวทีแห่งโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถตลอดช่วงเทศกาล
Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 9 จัดบนพื้นที่ 10 ท่าน้ำสำคัญทางประวัติศาสตร์ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร / วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร / วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร / วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร / วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร / ท่ามหาราช / ท่ายอดพิมาน / เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ / สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม และล้ง 1919 นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน Lamphun River Festival ณ พื้นที่ถนนรถแก้ว จังหวัดลำพูน ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566
และยังคงจัดเต็มกิจกรรมทำบุญไหว้พระ รับมงคล เชิญชวนร่วมลอยกระทง ร้านค้าชุมชน และยังคงสานต่อกิจกรรมดีงามด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนซึ่งจะมีเส้นทางนำเที่ยว กับภารกิจ Walk&Bike เพลิดเพลิดกับการถ่ายรูปเช็คอินทุกท่าน้ำลุ้นรับของรางวัล และกิจกรรม RPST x River Festival 2023
ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวโดยชุมชนกับเครือข่ายรักการถ่ายภาพ ด้วยกิจกรรม Photo Walk ร่วมเดินถ่ายภาพประเพณีอันดีงาม
ความสนุกสนานรื่นเริงจากมหรสพการแสดงต่างๆในงานประพณีลอยกระทง
พร้อมกันนี้ยังคงขับเคลื่อนกิจกรรมที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับชุมชนได้มีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรมการรณรงค์การลอยกระทงใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก” กับการลอยกระทงในระบบปิด เพื่อลดจำนวนกระทงในคลอง
พร้อมทั้งเชื่อมโยงสถิติการรณรงค์การลดจำนวนขยะกระทงที่จัดเก็บโดยกทม. ผ่านการเก็บแต้ม SX Point ใน SX Application และกิจกรรมทำความสะอาดคลอง “Clean Klong” ยังคงดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยได้รับความร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร โครงการ “เก็บกลับ-รีไซเคิล” และพันธมิตรทุกภาคส่วน ส่งเสริมการคัดแยกขยะเพื่อการรีไซเคิลในชุมชน อีกทั้งต่อยอดความรู้ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรมและประชาชนที่เข้าร่วมงาน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม”
“Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” เป็นงานเดียวที่นักท่องเที่ยวจะได้สักการะไหว้พระ ทั้ง 5 วัด ในยามค่ำคืน และชมความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยาจากทั้ง 10 ท่าน้ำ รวมถึงร่วมชมอัตลักษณ์ที่งดงามจากสถาปัตยกรรมที่ผสานเรื่องเล่าประจำชุมชนริมน้ำ สุขไปกับกิจกรรมสรรค์สุข สนุกไปกับแสงสี และอิ่มเอมไปกับมรดกศิลป์ทรงคุณค่า เชื่อมโยงวิถีแห่งวัฒนธรรมอันดีงาม พบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ พิธีขอขมาพระแม่คงคา/ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ลอยกระทง ประทีปเทียนหอม ใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก” / สวดมนต์เจริญสมาธิ / ซุ้มอาหารชุมชนชวนชิม
และตลาดนัดชุมชนรวมของดีของเด่น ประจำท้องถิ่นมารวมไว้ในงานให้ได้ ช้อป ชม ชิม เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน สร้างโอกาสในการกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมชื่นชมไฮไลท์การแสดงแต่ละท่าน้ำ เช่น การแสดงดนตรีไทยร่วมสมัย การแสดงโขนกลางแปลง การแสดงลิเกศิลปะไทย เป็นต้น โดยมีบริการเรือด่วนรับส่งฟรีใน 10 ท่าน้ำ วันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.00 – 22.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.00 – 24.00 น.
โครงการ เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ปกครองและเยาวชนในชุมชนดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจากชุมชน 5 วัด รวม 57 คน และความพิเศษในปีนี้เน้นการอบรมเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านเยาวชนที่เป็นลูกหลานของชุมชนริมน้ำ ที่ถือเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรัก ความหวงแหนรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่เรื่องราวดี ๆ ของชุมชนตนเองจนก่อให้เกิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน และความยั่งยืนอีกด้วย
ร่วมสืบสานประเพณี และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พร้อม “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” กับเทศกาล “Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย”ครั้งที่ 9 และ Lumphun River Festival ครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด “ลำนำ วันเพ็ญ” พร้อมเชิญชวนลอยกระทงใน “บ่อลอยกระทงรักษ์โลก” ตั้งแต่วันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2566 นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. สอบถามหรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.riverfestivalthailand.com และ facebook/riverfestivalthailand
www.aboutinformant9.blogspot.com
kedsaraporn pnussuwonkiri
tel.0955516345