พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี
ประวัติความเป็นมา
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ราชบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529
โดยกรมศิลปากรได้ขออนุมัติใช้อาคารศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเดิม
ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ใช้เป็นสถานที่จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ตามโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติประจำเมืองของกรมศิลปากร
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง
เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา
อนุรักษ์และเผยแพร่ความรู้
ความเข้าใจทางด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติที่จะสนองความต้องการของประชาชนและชุมชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี
และ
จังหวัดใกล้เคียงตามแนวทางการพัฒนากิจการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสมัยใหม่
โดยมีการจัดนิทรรศการถาวรที่เน้นเรื่องราวของท้องถิ่น ทั้งด้านธรณีวิทยา โบราณคดี
ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน ชาติพันธุ์วิทยา
และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดราชบุรี
การจัดแสดง
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ราชบุรี เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2534 โดยสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ราชบุรี
ประกอบด้วยอาคารสำคัญ 2 หลัง
เป็นอาคารจัดแสดงและอาคารส่วนบริการต่างๆ ดังต่อไปนี้
อาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวร ได้แก่
อาคารศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเดิม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2465
ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบตะวันตกที่ได้รับความนิยมนำมาสร้างกันอย่างแพร่หลายในช่วงรัชกาลที่
5-6 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่
10 พฤษภาคม พ.ศ. 2520
การจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารจะเน้นเรื่องราวของท้องถิ่นตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์
โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 5 เรื่องด้วยกันได้แก่
1. สภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยาของจังหวัดราชบุรี จัดแสดงแหล่งกำเนิดทรัพยากรธรรมชาติประเภท ดิน หิน แร่ธาตุและ
รูปจำลอง
ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง (กาญจนบุรีและเพชรบุรี)
โดยมีตัวอย่างของซากดึกดำบรรพ์ ดิน หินแร่ อัญมณี
และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีแหล่งกำเนิดในจังหวัดราชบุรี
จะแสดงประกอบ
2. ประวัติศาสตร์และโบราณคดีของจังหวัดราชบุรี
จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่พบในจังหวัดราชบุรีเรียงลำดับตามยุคสมัยดังต่อไปนี้
2.1
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จัดแสดงหลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีของมนุษย์ในยุคที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยในบริเวณ
จังหวัดราชบุรี
เช่น เครื่องมือ เครื่องใช้ รวมทั้งเครื่องประดับที่ทำจากหิน โลหะ
กระดูกสัตว์ต่างๆ รวมทั้งภาชนะดินเผา กลองมโหระทึก และโครงกระดูกมนุษย์ เป็นต้น
2.2
ราชบุรีในวัฒนธรรมทวารวดี
จะแสดงเรื่องราวและหลักฐานต่างๆ ของวัฒนธรรมทวารวดีที่พบในจังหวัดราชบุรี
ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11-15
โดยเฉพาะเรื่องราวของเมืองโบราณคูบัว และเทือกเขางู
2.3
ราชบุรีในวัฒนธรรมเขมร
จะแสดงเรื่องราวและหลักฐานของวัฒนธรรมเขมรหรือ "ลพบุรี" ที่ปรากฏในจังหวัดราชบุรีในช่วงพุทธศตวรรษที่
16-18 โดยมีโบราณวัตถุที่สำคัญภายในห้องจัดแสดงนี้ ได้แก่
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี พบที่บริเวณจอมปราสาทเมืองโบราณโกสินารายณ์เป็น
1 ในจำนวน 5 องค์
ที่พบในดินแดนประเทศไทย
2.4
ราชบุรีในสมัยสุโขทัย-ธนบุรี จะแสดงเรื่องราวของจังหวัดราชบุรีในช่วงทศวรรษที่
18-24
จากหลักฐานที่เมืองราชบุรีที่
ปรากฏในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย
ราชบุรีเป็นเมืองท่าเมืองหน้าด่าน และเส้นทางการเดินทัพในสมัยอยุธยา
โดยจะแสดงหลักฐานด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม เครื่องถ้วยจีน
และเครื่องปั้นดินเผา
2.5 ราชบุรีในสมัยรัตนโกสินทร์
จัดแสดงเรื่องราวจังหวัดราชบุรีในช่วง พ.ศ. 2325-2475
แสดงถึงความสำคัญของเมืองราชบุรีในด้านการเมือง การปกครอง การพัฒนาท้องถิ่น
ต่อเนื่องจากสมัยกรุงธนบุรีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ (ร.7)
3. เผ่าชนชาติพันธุ์วิทยาของจังหวัดราชบุรี จัดแสดงเรื่องราวของกลุ่มชาติพันธุ์ของจังหวัดราชบุรี
ที่มีความหลากหลายทางเชื้อ
ชาติและเผ่าพันธุ์เป็นลักษณะเด่นของจังหวัด
กลุ่มชนเหล่านี้มีความแตกต่างกันทางวัฒนธรรมและประเพณีที่แต่ละชาติพันธุ์ยังคงยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิม
ชาติพันธุ์เหล่านี้ ได้แก่ ชาวไทยพื้นถิ่นภาคกลาง ชาวไทยจีน ชาวไทยยวน ชาวไทยมอญ
ชาวไทยกะเหรี่ยง ชาวไทยลาวโซ่ง ชาวไทยลาวเวียง และชาวไทยเขมรลาวเดิม
4. มรดกดีเด่น
แบ่งการจัดแสดงออกเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้
4.1 มรดกดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม
เช่น สถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวปูชนียวัตถุที่สำคัญคู่บ้านคู่เมือง
ประเพณีวัฒนธรรมและเทศกาลงานประเพณี อาหารพื้นบ้านและหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น
4.2
มรดกดีเด่นทางธรรมชาติ ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติ เช่น
อุทยานหินเขางู โป่งยุบ แก่งส้มแมว เป็นต้น
รวมทั้งต้นไม้และพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดราชบุรี
4.3 บุคคลสำคัญ
ได้แก่ บุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงและทำคุณประโยชน์ให้แก่จังหวัดในด้านต่างๆ เช่น
ปูชนียบุคคลที่สำคัญทาง
ประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญทางด้านทหาร การเมืองและการปกครอง รวมทั้งบุคคลสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศิลปินเพลงพื้นบ้านต่างๆ
ประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญทางด้านทหาร การเมืองและการปกครอง รวมทั้งบุคคลสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศิลปินเพลงพื้นบ้านต่างๆ
5. ราชบุรีในปัจจุบัน จัดแสดงนิทรรศการเรื่อง
"ราชบุรี ราชสดุดี"
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รัชกาลที่ 9 ต่อเมืองราชบุรี ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านการอนุรักษ์โบราณสถาน
ด้านการพระศาสนา ด้านการประชาสงเคราะห์ และเสด็จฯเยี่ยมราษฎร
ด้านการเกษตรและชลประทาน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษา
ด้านการลูกเสือแห่งชาติ
อาคารกองบัญชาการของรัฐบาลมณฑลราชบุรี
ลักษณะเป็นอาคารที่ได้รับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมตะวันตกเช่นเดียวกับอาคารศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเดิม
มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้
ยกพื้นสูง หลังคามุงกระเบื้องว่าวและด้านหน้าก่อมุขยื่นออกไป สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.
2416 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ 5) เพื่อใช้เป็นจวนที่พักของสมเด็จพระเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์
(ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในสมัยต้นรัชกาลที่ 5 และต่อมาได้ใช้เป็นกองบัญชาการรัฐบาลมณฑลราชบุรี
ในคราวแรกของการจัดตั้งมณฑลราชบุรี และได้ใช้เป็นสถานที่ทำการต่างๆ ของส่วนราชการอื่นๆ
ต่อมาในภายหลัง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539 กรมศิลปากรได้ขออนุญาตใช้อาคารแห่งนี้จากกรมธนารักษ์
กระทรวงการคลัง เพื่อปรับปรุงให้เป็นอาคารส่วนบริการ
โดยชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมพิเศษต่างๆ
ส่วนชั้นบนใช้เป็นสำนักงานและคลังจัดเก็บศิลปะโบราณวัตถุเพื่อการศึกษาของพิพิธภัณฑ์
ขอขอบคุณ คุณฉัตรชัย คงเสือ
เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี โทร.081-6801734 ผู้บรรยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น