บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จึงได้ติดตั้ง Power Optimizer ในระบบไฟฟ้าส่องสว่างทั้งสายทาง ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ลดมาตรฐานความสว่างของหลอดไฟ ทั้งบนสายทาง อาคาร และด่านเก็บค่าผ่านทาง จะถูกตรวจสอบด้วยระบบตรวจวัดพลังงานแบบเรียลไทม์ โดยควบคุมด้วย AI เพื่อวางแผนการจัดการพลังงานอย่างแม่นยำ พร้อมการรายงานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 163.5 ตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี ดร. ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจากข้อมูลระหว่างปี 2566 และ 2567 แสดงให้เห็นว่ามาตรการของเราไม่เพียงช่วยเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในองค์กร แต่ยังทำให้การใช้พลังงานในระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น” “ผลลัพธ์เปรียบเทียบข้อมูลในไตรมาสเดียวกันระหว่างปี 2566 และ 2567 พบว่า อาคารปฏิบัติการ (Main Operation Center) ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นถึง 15% ในขณะที่ด่านเก็บค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น 18% นอกจากนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าบนสายทางยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 23% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่บริษัทฯ ดำเนินการ” ดร. ศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติม DMT มุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเป้าหมายด้านความยั่งยืนในทุกมิติ DMT ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ต่อสังคม โดยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาด สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ "เรามั่นใจว่าในปลายปี 2567 การติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System) จะช่วยสนับสนุนการปฏิบัติการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการใช้พลังงานสะอาดให้ดีมากยิ่งขึ้น และเมื่อรวมกับการติดตั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อป คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีก 232.2 ตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี" ดร. ศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้าย
kedsarapron pnussuwonkiri
tel.095-5516345
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น