ต่อต่อด้วยนครสวรรค์ สุพรรณบุรี ปิดท้ายที่สุราษฎร์ธานีเมืองใต้ ยกระดับเทศกาลประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ สร้างงาน สร้างรายได้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน
วันที่ 16 ธันวาคม 2565 นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการแถลงข่าวงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่นวิถีไทย ประจำปี 2566
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นครสวรรค์ สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด ผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
ภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาค อาทิ หุ่นกระติบ ของจังหวัดมหาสารคาม การเชิดมังกรและสิงโต ของจังหวัดนครสวรรค์ การแสดงเบญจดนตรีไทย ของจังหวัดสุพรรณบุรี สาธิตมวยไชยา ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงอาหารพื้นบ้านของแต่ละภาค และผลิตภัณฑ์ ทางวัฒนธรรมไทย (CPOT) ด้วย
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นครสวรรค์ สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด ผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
ภายในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาค อาทิ หุ่นกระติบ ของจังหวัดมหาสารคาม การเชิดมังกรและสิงโต ของจังหวัดนครสวรรค์ การแสดงเบญจดนตรีไทย ของจังหวัดสุพรรณบุรี สาธิตมวยไชยา ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงอาหารพื้นบ้านของแต่ละภาค และผลิตภัณฑ์ ทางวัฒนธรรมไทย (CPOT) ด้วย
นางโชติกา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างงาน สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดของทุกภาค เป็นการฟื้นวิกฤติจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งเสริมและเปิดพื้นที่ให้ศิลปินศิลปินพื้นบ้านแขนงต่างๆ ได้มีโอกาสถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมการแสดงและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นไปสู่เยาวชนและประชาชน
รวมทั้งสนับสนุนการนำสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคนั้นๆ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม ศิลปิน
และการท่องเที่ยวของจังหวัด ตามนโยบาย วธ. ที่มุ่งขับเคลื่อนงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ทั้งด้านมิติสังคมและมิติเศรษฐกิจ Restart ประเทศไทย ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม ตามนโยบาย “เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน” ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมไทยในเวทีโลก
ด้วยทุนทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ หรือ 5F เปิดพื้นที่ เปิดโอกาส ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวและซึมซับวัฒนธรรมของไทยมากขึ้น
รองปลัด วธ. กล่าวอีกว่า สำหรับในปี 2566 นี้ จะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ให้ทุกคนในชุมชนและจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันมีส่วนร่วมในทุกมิติ ซึ่งความพิเศษของงานแต่ละที่จะแตกต่างกันด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ มาจัดเป็นไฮท์ไลท์ของงานผ่านกิจกรรมการแสดง สินค้าทางวัฒนธรรม ศิลปินท้องถิ่น การตกแต่งสถานที่และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ได้แก่
1. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” วันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณพระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
2. ภาคเหนือ “อารยธรรมแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” วันที่ 16 - 20 มกราคม 2566 ณ บริเวณหาดทรายต้นน้ำเจ้าพระยา และอาคารพาสาน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
3. ภาคกลางและภาคตะวันออก “ดนตรีสานศิลป์ สองถิ่นวัฒนธรรม” วันที่ 9 - 13 มิถุนายน 2566 ณ บริเวณวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และ 4. ภาคใต้ “สานศิลป์ แดนดินใต้ เทิดไท้องค์ราชัน” วันที่ 26 - 30 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ วธ. ให้ความสำคัญในรบูรณาการความร่วมมือ กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานในสังกัดของ วธ. ไม่ว่าจะเป็น กรมศิลปากร ที่ดูในเรื่องกิจกรรมเสวนาวิชาการและกิจกรรมสังคีตสัญจร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดูเรื่องการจัดตลาดวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ดูการจัดบูทแสดงงานศิลปะ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ดูการจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม ในวันเปิดงานและการแสดงโขน รวมถึงสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดของจังหวัดเจ้าภาพให้มี การประสานงานและการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ร่วมกันจัดงานให้เกิดการยกระดับเทศกาลประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ
รวมทั้งสนับสนุนการนำสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคนั้นๆ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม ศิลปิน
และการท่องเที่ยวของจังหวัด ตามนโยบาย วธ. ที่มุ่งขับเคลื่อนงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ทั้งด้านมิติสังคมและมิติเศรษฐกิจ Restart ประเทศไทย ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม ตามนโยบาย “เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน” ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมไทยในเวทีโลก
ด้วยทุนทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ หรือ 5F เปิดพื้นที่ เปิดโอกาส ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวและซึมซับวัฒนธรรมของไทยมากขึ้น
รองปลัด วธ. กล่าวอีกว่า สำหรับในปี 2566 นี้ จะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ให้ทุกคนในชุมชนและจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันมีส่วนร่วมในทุกมิติ ซึ่งความพิเศษของงานแต่ละที่จะแตกต่างกันด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ มาจัดเป็นไฮท์ไลท์ของงานผ่านกิจกรรมการแสดง สินค้าทางวัฒนธรรม ศิลปินท้องถิ่น การตกแต่งสถานที่และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ได้แก่
1. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” วันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณพระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
2. ภาคเหนือ “อารยธรรมแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” วันที่ 16 - 20 มกราคม 2566 ณ บริเวณหาดทรายต้นน้ำเจ้าพระยา และอาคารพาสาน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
3. ภาคกลางและภาคตะวันออก “ดนตรีสานศิลป์ สองถิ่นวัฒนธรรม” วันที่ 9 - 13 มิถุนายน 2566 ณ บริเวณวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และ 4. ภาคใต้ “สานศิลป์ แดนดินใต้ เทิดไท้องค์ราชัน” วันที่ 26 - 30 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ วธ. ให้ความสำคัญในรบูรณาการความร่วมมือ กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานในสังกัดของ วธ. ไม่ว่าจะเป็น กรมศิลปากร ที่ดูในเรื่องกิจกรรมเสวนาวิชาการและกิจกรรมสังคีตสัญจร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดูเรื่องการจัดตลาดวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ดูการจัดบูทแสดงงานศิลปะ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ดูการจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม ในวันเปิดงานและการแสดงโขน รวมถึงสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดของจังหวัดเจ้าภาพให้มี การประสานงานและการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ร่วมกันจัดงานให้เกิดการยกระดับเทศกาลประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ
#aboutinformant9.blogspot.com
#kedsaraporn pnussuwonkiri
#0955516345
#kedsaraporn pnussuwonkiri
#0955516345
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น