วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โทล์ลเวย์ จัดแรลลี่ขอบคุณผู้ใช้ทางและชวนทำประโยชน์เพื่อสังคม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

         เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ ดอนเมืองโทล์ลเวย์ ได้จัดกิจกรรม "Tollway Rally Happy Day 2024 ครั้งที่ 2" เพื่อขอบคุณผู้ใช้ทางที่ให้การสนับสนุนการใช้บริการทางยกระดับดอนเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบบริหารข้อมูลลูกค้า (CRM) เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างผู้ใช้ทางและคณะผู้บริหารดอนเมืองโทล์ลเวย์ โดยเปิดให้ผู้ใช้ทางแลกแต้ม DMT ผ่านทาง Line OA @donmuangtollway เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม “Tollway Rally Happy Day” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เริ่มปล่อยรถตั้งแต่เช้าตรู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง มีทีมผู้บริหาร DMT ตบเท้าเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง นำโดยคุณอโนมา อุฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการ คุณนพพล โพธิ์ขี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน และยังมีผู้แทนจากกรมทางหลวง ผู้บริหารบ.อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) และผู้บริหารบ.ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย (Hyundai Mobility Thailand) ที่ใจดีมอบความพิเศษให้กับกิจกรรมนี้เพิ่มขึ้น โดยให้ผู้ใช้ทางฯ ได้เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai IONIQ 5 จำนวน 10 คัน เพื่อช่วยลลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้รับประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะทันสมัยขับได้ระยะทางไกลมากขึ้น
คณะผู้บริหาร DMT ได้พาผู้ใช้ทาง แวะระหว่างทางเพื่อทำกิจกรรม ณ โรงเรียนวัดเตาปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยได้ช่วยกันลงมือทำแปลงผัก และร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อให้นักเรียนมีแหล่งเรียนรู้และสามารถนำผลผลิตไปใช้ในการประกอบอาหาร สร้างประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่มอบสมุดจากกระดาษรีไซเคิลกรีนเวย์ และขนมให้น้องๆ อีกด้วย หลังจากนั้น ชาวคณะได้เดินทางไปศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยและระบบนิเวศ รวมถึงได้ร่วมกิจกรรมเพาะเมล็ดมะค่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ซึ่งช่วยในการกักเก็บคาร์บอน นอกจากนี้ยังมีการสนุกกับกิจกรรมอาบน้ำช้างและให้อาหารช้าง ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม พร้อมปิดท้ายงานในช่วงค่ำด้วยคอนเสิร์ตสนุกๆ และเป็นกันเองจากศิลปินมากความสามารถอย่างคุณ เป๊กกี้ ศรีธัญญา ที่มามอบความสุข ความสนุกสนานให้ผู้ฟังอย่างเต็มอิ่ม ทุกคนต่างมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มให้กันและกัน

        นับว่า บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ไม่เพียงแต่จะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ยังมุ่งมั่นที่จะคิดค้น ริเริ่ม และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในการร่วมปกป้องและส่งมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดไป 

www. aboutinformant9.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

*พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม “การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู” ลิมิเต็ด อิดิชั่น*

ไทยริกาโนไม่หวาน 3 แก้วครับ !!! พันธุ์ไทยส่งมอบประสบการณ์ใจฟูไม่พัก หลังจากเปิดตัว ‘คัลแลนและพี่จอง’
แบรนด์พรีเซนเตอร์คู่แรกของพันธุ์ไทยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดชวนแฟนด้อมสองหนุ่มมาร่วมสนุกลุ้นรับการ์ดสุดคิวท์ เมื่อซื้อ ไทยริกาโน ครบ 3 แก้ว/ใบเสร็จ รับฟรี! “การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู”
จากคัลแลน และพี่จอง 1 ใบ ที่มาแจกความสดใสให้ชาวด้อมได้สะสมถึง 5 แบบสุดคิวท์ และ 1 แบบซีเคร็ท ที่บอกเลยว่าฟินมากๆ ใครได้ไปถือว่าโชคดีเยอะๆ (red heart) ชาวด้อมใจฟูที่ถือบัตร Max Card Plus/EV ซื้อไทยริกาโน ร้อนหรือเย็น 3 แก้ว/ใบเสร็จ รับฟรี! “การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู” (แบบสุ่ม) 1 ใบ มูลค่า 99 บาท *สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดเครื่องดื่ม 50% 10 แก้ว/เดือนได้ (green heart)สมาชิกบัตร Max Card ทั่วไปก็เป็นเจ้าของได้ ซื้อไทยริกาโน ร้อนหรือเย็น 3 แก้ว/ใบเสร็จ (ราคาปกติ) *ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ส่วนลดและโปรโมชั่นอื่นๆ ได้ จริงๆ ลิมิเต็ด อิดิชั่นมากๆ มีจำนวนจำกัดเพียง 60,000 ใบเท่านั้น! มาจุ่มกันได้ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2567 - 15 ธันวาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านพันธุ์ไทยทุกสาขาที่ร่วมรายการ https://bit.ly/ThairicanoJaifooCard ยกเว้นบริการจัดส่งถึงบ้าน ติดตามรายละเอียดผ่านทาง www.facebook.com/punthaicoffee  
#พันธุ์ไทย 
#PunthaiCoffee 
#ไทยริกาโน 
#Thairicano 
#กาแฟไทยที่ตั้งใจให้โลกรัก 
#คัลแลนพี่จอง


วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

DMT ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน DMT พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงคมนาคม ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน

การจำหน่ายคูปองผ่านทางในราคาพิเศษ ตั้งแต่วัแนที่ 11 พ.ย. ถึง 21 ธ.ค. 67 ณ อาคารศูนย์ปฏิบัติการ (Main Operation Center) ของบริษัทฯ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเพิ่มจุดจำหน่ายคูปองผ่านทางอีก ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
      ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยถึงกรณีแนวทางการลดผลกระทบจากการปรับใช้อัตราค่าผ่านทางทางหลวงสัมปทานตามที่กำหนดในสัญญาสัมปทานทางหลวง ในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงดินแดง-ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน ว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นของประชาชน เนื่องมาจากสถานการณ์วิกฤต การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน DMT มีความห่วงใยในความเดือดร้อนของประชาชน จึงพร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยจำหน่ายคูปองผ่านทางในราคาพิเศษจากเดิมส่วนลด 5% เพิ่มส่วนลดขึ้นเป็น 10% ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2567 โดยคูปองผ่านทางดังกล่าวจะจำหน่ายเป็นเล่ม เล่มละ 20 ใบ ดังนดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม 2567 ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการ บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:00–17:00 น. และศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น 2 ฝั่งโรบินสัน วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 11:00-20:00 น. และเพิ่มจุดจำหน่ายอีก 1 แห่ง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร B หน้า Top Supermarket วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:00-15:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-2792-6500 หรือ Tollway Call Center 1233

สำหรับทางหลวงสัมปทาน ดินแดง-ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน มีระยะทางสัมปทาน 21 กม. เป็นทางยกระดับที่ให้บริการคมนาคมขนส่งยานพาหนะที่เดินทางเข้า-ออก ระหว่างกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลในบริเวณทิศเหนือ และเป็นเส้นทางหลักที่มุ่งสู่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การก่อสร้างใช้เงินลงทุนสูง ได้รับสิทธิในการบริหารจัดการทางยกระดับตามข้อกำหนดในสัญญาสัมปทานฯ รวมถึงสิทธิในการจัดเก็บค่าผ่านทาง เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2537 อำนวยความสะดวกใน การเดินทางของประชาชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชาวกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลในบริเวณทิศเหนือ สามารถเดินทางไปยังจุดหมายด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทางหลวงสัมปทานฯ นี้ เป็นเส้นทางเลือกของประชาชนในการพิจารณาตัดสินใจที่จะเลือกใช้เส้นทางหลวงสัมปทานฯ หรือจะเลือกใช้เส้นทางอื่นได้อย่างอิสระ ซึ่งการปรับใช้อัตราค่าผ่านทางครั้งนี้เป็นการปรับทุก ๆ 5 ปี ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าในสัญญาสัมปทานฯ แล้ว ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 โดยปรับใช้อัตราค่าผ่านทางช่วงดินแดง-ดอนเมือง สำหรับรถประเภท 4 ล้อ และรถมากกว่า 4 ล้อ จากอัตรา 80/110 บาท เป็น 90/120 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จากอัตรา 35/45 บาท เป็น 40/50 บาท เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน การจัดหาทุน ลงทุน การออกแบบก่อสร้าง และการบำรุงรักษา ช่วงดินแดง-ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน กับกรมทางหลวง (ทล.) ทั้งนี้ DMT ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการทางหลวงสัมปทาน เพื่อส่งมอบบริการทางเลือกที่เห็นค่า เวลาของผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุขอย่างต่อเนื่อง

www.aboutinformant9.blogspot.com


วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

เพชรบูรณ์จัด “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ทกจ.เพชรบูรณ์ร่วมสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดฯ เทศบาลเมือง จัดทัพผู้ประกอบการลงพื้นที่ตามรอยพ่อขุนผาเมือง

          ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนายวีระ ธูปทอง ร่วมกับ สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และเทศบาลเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวพร้อมสื่อมวลชน ลงพื้นที่ร่วมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนนโยบายรัฐบาล “เมืองน่าเที่ยว” จังหวัดเพชรบูรณ์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม “ศรัทธาเหนือกาลเวลา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” นำสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและน่าสนใจในจังหวัดอีกมาก ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาถึง...เมืองอยู่สบาย..จังหวัดเพชรบูรณ์

         จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ในวันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 นี้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จะอัญเชิญพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ “พระพุทธมหาธรรมราชา” ลงประกอบพิธีกรรมดำน้ำ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

         ทั้งนี้ มีกำหนดการที่สำคัญประกอบด้วยวันที่ 30 กันยายน 2567 จัดพิธีรำถวายพระพุทธมหาธรรมราชา ในเวลา 18.00 น. ณ พุทธอุทยานเพชบุระ จำนวน 3,000 คน วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นพิธีบวงสรวง เวลา 09.09 น. ณ วัดไตรภูมิ และพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาจากวัดไตรภูมิแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ และพิธีเปิดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำหน้าวัดมหาธาตุตำบลในเมือง ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เป็นพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาลงเรือพายทวนน้ำจากท่าน้ำวัดไตรภูมิ ไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร

          ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ได้กล่าวถึงการจัดงาน “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ว่า เป็นงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่พี่น้องชาวเพชรบูรณ์มีความศรัทธาและสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะเป็นการจัดขึ้นในช่วงวันสารทไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีการอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาแห่รอบเมือง และจะทำพิธีอุ้มพระดำน้ำในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 รวม 10 วัน 10 คืน พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย รวมถึงการแสดงแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี อีกทั้งเราได้จัดเตรียมสถานที่ไว้สำหรับจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ณ บริเวณลานผาเมือง หอโบราณคดีเพชรบูรณ์อินทราชัย หรือศาลากลางหลังเก่า ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ และที่ด้านหลังของการแสดงอีก 3 ไร่ เพื่อความสะดวกสบายแก่ทุกท่าน

         จังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องมะขามหวานให้เป็นที่กล่าวขานยอมรับกันทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ อีกเป็นจำนวนมาก สำหรับสายมู ที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธา และนักชิมนักช้อปต้องหลงใหลในบรรยากาศธรรมชาติบนถนนคนเดินยามค่ำคืนที่มีของขายให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก

         ทางด้านนายอรรฆพล สัจจะพิทักษจิตต์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้จังหวัดอื่นในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอย่าง เขาค้อ ภูทับเบิกแล้ว ยังมีเส้นทางที่น่าเที่ยวอีกคือ เส้นทางสายประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่เราสามารถนำท่านไปเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ของเราในจังหวัด ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการอยากให้ลองมาสัมผัสทริปเส้นทางใหม่ที่เรานำเสนอนี้ จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่น่าอยู่ และเป็นเมืองสงบร่มเย็น อากาศดี ตั้งแต่อุทยานศรีเทพ อำเภอหล่มสัก ตลอดเส้นทางจะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ขอเชิญชวนมาเที่ยวด้วยกันครับ

         การประชาสัมพันธ์ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ครั้งนี้ โดยการนำของสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้นำคณะมาสำรวจเส้นทางเชื่อมโยงประเพณีดังกล่าวแล้ว ยังสามารถเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตามรอยพ่อขุนผาเมืองและศรีเทพเมืองมรดกโลก ซึ่งได้เชิญตัวแทนจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) โดยนายไพรัตน์ ห่านศรีสุข อุปนายกสมาคมฯ พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสื่อมวลชน ได้นำข้อมูลเส้นทางพร้อมบันทึกภาพนำไปประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่าง ๆ สร้างการรับรู้และนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์เมืองน่าเที่ยวได้เป็นอย่างดี

         ด้านนางสาววรรณิภา เด่นโรจน์มณี นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงการเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ว่า “ในนามสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน อยากบอกว่าจังหวัดเราไม่ได้น่าเที่ยวเฉพาะช่วงอากาศเย็นเท่านั้น สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะหน้าหนาวที่ได้สัมผัสอากาศหนาวแตะหมอกเย็น ในตัวเมืองยังมีถนนคนเดินไทยหล่ม ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง วัดโพธิ์ทองที่เด่นเรื่องการขอพร สปาที่พุเตย ที่พลาดไม่ได้สำหรับที่เป็นหนึ่งในเรื่องศรัทธา เส้นทางสายมูมีท้าวเวสสุวรรณลอยฟ้า 9 รูป ตั้งอยู่ที่วัดป่าคาสามัคคี เชื่อว่าท่านมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

         การเดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวตามรอยพ่อขุนผาเมือง ภายใต้โครงการจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำในครั้งนี้ ยังได้พบแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย อย่างเมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลก ถนนคนเดินไทหล่ม ชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ณ พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ ดินแดนประวัติศาสตร์ ชุมชนบ้านห้วยโปร่ง อนุสรณ์สถานเมืองราดพ่อขุนผาเมือง เจดีย์พ่อขุนผาเมือง อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง กราบสักการะพระพุทธมหาธรรมราชา ณ พุทธอุทยานเพชบุระ ชมหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ไหว้ศาลหลักเมือง สถานที่ผ่อนคลายกับพุเตยสปา ที่อำเภอวิเชียรบุรี พร้อมรับประทานอาหารกับไก่ย่างชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์

          สำหรับประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกกล่าวขานเป็นตำนานมหัศจรรย์ที่ผ่านกาลเวลามาร่วม 500 ปี และยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อันเป็นรากเหง้าของชาวเพชรบูรณ์ ส่วนกิจกรรมประเพณีอุ้มพระดำน้ำในปีนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ตรงกับวันสารทไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 10 เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ขอเชิญชวนประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมเดินทางมาชมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่ได้รับการยกย่องจากกระทรวงวัฒนธรรมให้เป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งในโอกาสที่เมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก จึงอยากให้ทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าระดับโลกแห่งนี้





#ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ

#จังหวัดเพชรบูรณ์เมืองน่าเที่ยว

#สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์

#ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์

#เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์

DMT เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านดินแดง ยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน สู่การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

         บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการทางด่วนที่สนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเจ้าแรก พร้อมเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง เพื่อยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่อผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข สำหรับรองรับผู้ใช้บริการที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยใช้ระบบ DC Fast charge ขนาด 120 กิโลวัตต์ หากแบตเตอรี่หมดก็ใช้เวลาชาร์จไฟโดยเพียง 15 นาที วิ่งต่อได้โดยแบตเตอรี่ไม่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข และยังอำนวยความสะดวกให้รถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต


          ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านดินแดง ว่า ในปัจจุบันนโยบายการลดมลพิษด้วยการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป้าหมาย Net Zero Emission ของประเทศ และบริษัทฯ มีนโยบายด้าน ESG ที่ดำเนินมาต่อเนื่องหลายด้าน ทั้งการเปลี่ยนรถยนต์ของบริษัทฯ เป็น EV ดังนั้นการติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กรณีประสบปัญหาประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่เหลือน้อย ไม่พอที่จะวิ่งบนเส้นทางได้ 2) เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากับผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ และรถปฏิบัติการของบริษัทฯ 3) เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข 4) เพื่อช่วยลดควันพิษจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และมลพิษทางเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทางสามารถเดินทางถึงจุดหมายโดยไม่เสี่ยงที่จะแบตเตอรี่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข ผู้ใช้ทางที่มีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ Tollway Call Center 1233 หรือ Line Official Account ของบริษัทฯ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับปรุงศูนย์อำนวยความสะดวกบริเวณอาคารด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ภายใต้แนวคิดอาคารลดโลกร้อน เพื่อเป็นจุดอำนวยการสำหรับผู้ใช้บริการ



         “นอกจากนั้นเพื่อรองรับรถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนถ่ายจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถพลังงานไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยเปลี่ยนรถยนต์ผู้บริหารจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีเป้าหมาย 100% อีกทั้งสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในภาคขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ DMT ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และยังเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมภายนอกด้วย โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าสู่ Carbon Neutrality และสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ด้วยการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม” ดร.ศักดิ์ดาเผย


         ดร.ศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า เพื่อเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์อำนวยความสะดวก ให้ทันสมัย ประกอบไปด้วย ห้องพักอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการกรณีฉุกเฉิน ห้องสุขาพร้อมรองรับคนพิการ และระบบกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิก DMT บน Line Official Account @donmuangtollway ยังสามารถใช้แต้ม DMT แลกรับสิทธิ์ในการชาร์จไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “3C Tollway EV Way” ประกอบด้วย Clean Energy, Convenient และ Comfortable เพื่อให้เป็นสถานีรูปแบบที่มีความสะดวกสบายและเน้นความเป็น Clean Energy สะท้อนวิถีชีวิตของผู้ใช้รถไฟฟ้าที่รักษ์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเภทการชาร์จของตู้ชาร์จไฟฟ้าเป็นแบบรวดเร็ว โดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Charger) ขนาดกำลังไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ

         นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย บริษัทฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านความช่วยเหลือ ดูแลผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข โดยมีทีมงาน DMT Smart Assistant  ประกอบไปด้วยพนักงานจัดการจราจร พนักงานกู้ภัย พนักงานปฏิบัติการพิเศษ และพนักงานรถยก ที่ทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการ (Operation Control Center : OCC) ประสานการทำงานกับระบบ กล้อง AI CCTV เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนทางยกระดับอุตราภิมุข ทีมงานเหล่านี้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ใช้ทางภายใน 12 นาที เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตลอดกว่า 2 ปี บริษัทฯ ได้พัฒนาความรู้และทักษะด้านระบบยานยนต์ไฟฟ้าและความปลอดภัย โดยมีวิทยากรชั้นนำของสถาบันยานยนต์ มาอบรมและเสริมเทคนิคการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากยานยนต์ไฟฟ้าทั้งการกู้ภัยและดับเพลิงให้ทีมงานเพื่อความพร้อมเข้าช่วยเหลือ ดูแลรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุขมั่นใจได้ในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

www.aboutinformant9.blogspot.com

kedsaraporn pnussuwonkiri

tel.095-5516-345