วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

เพชรบูรณ์จัด “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ทกจ.เพชรบูรณ์ร่วมสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดฯ เทศบาลเมือง จัดทัพผู้ประกอบการลงพื้นที่ตามรอยพ่อขุนผาเมือง

          ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนายวีระ ธูปทอง ร่วมกับ สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ และเทศบาลเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวพร้อมสื่อมวลชน ลงพื้นที่ร่วมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนนโยบายรัฐบาล “เมืองน่าเที่ยว” จังหวัดเพชรบูรณ์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม “ศรัทธาเหนือกาลเวลา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” นำสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและน่าสนใจในจังหวัดอีกมาก ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาถึง...เมืองอยู่สบาย..จังหวัดเพชรบูรณ์

         จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ในวันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 นี้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จะอัญเชิญพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ “พระพุทธมหาธรรมราชา” ลงประกอบพิธีกรรมดำน้ำ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

         ทั้งนี้ มีกำหนดการที่สำคัญประกอบด้วยวันที่ 30 กันยายน 2567 จัดพิธีรำถวายพระพุทธมหาธรรมราชา ในเวลา 18.00 น. ณ พุทธอุทยานเพชบุระ จำนวน 3,000 คน วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นพิธีบวงสรวง เวลา 09.09 น. ณ วัดไตรภูมิ และพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาจากวัดไตรภูมิแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ และพิธีเปิดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำหน้าวัดมหาธาตุตำบลในเมือง ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เป็นพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาลงเรือพายทวนน้ำจากท่าน้ำวัดไตรภูมิ ไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร

          ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ได้กล่าวถึงการจัดงาน “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ว่า เป็นงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่พี่น้องชาวเพชรบูรณ์มีความศรัทธาและสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะเป็นการจัดขึ้นในช่วงวันสารทไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีการอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาแห่รอบเมือง และจะทำพิธีอุ้มพระดำน้ำในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 รวม 10 วัน 10 คืน พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย รวมถึงการแสดงแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี อีกทั้งเราได้จัดเตรียมสถานที่ไว้สำหรับจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ณ บริเวณลานผาเมือง หอโบราณคดีเพชรบูรณ์อินทราชัย หรือศาลากลางหลังเก่า ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ และที่ด้านหลังของการแสดงอีก 3 ไร่ เพื่อความสะดวกสบายแก่ทุกท่าน

         จังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องมะขามหวานให้เป็นที่กล่าวขานยอมรับกันทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ อีกเป็นจำนวนมาก สำหรับสายมู ที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธา และนักชิมนักช้อปต้องหลงใหลในบรรยากาศธรรมชาติบนถนนคนเดินยามค่ำคืนที่มีของขายให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก

         ทางด้านนายอรรฆพล สัจจะพิทักษจิตต์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้จังหวัดอื่นในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอย่าง เขาค้อ ภูทับเบิกแล้ว ยังมีเส้นทางที่น่าเที่ยวอีกคือ เส้นทางสายประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่เราสามารถนำท่านไปเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ของเราในจังหวัด ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการอยากให้ลองมาสัมผัสทริปเส้นทางใหม่ที่เรานำเสนอนี้ จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่น่าอยู่ และเป็นเมืองสงบร่มเย็น อากาศดี ตั้งแต่อุทยานศรีเทพ อำเภอหล่มสัก ตลอดเส้นทางจะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ขอเชิญชวนมาเที่ยวด้วยกันครับ

         การประชาสัมพันธ์ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ครั้งนี้ โดยการนำของสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้นำคณะมาสำรวจเส้นทางเชื่อมโยงประเพณีดังกล่าวแล้ว ยังสามารถเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตามรอยพ่อขุนผาเมืองและศรีเทพเมืองมรดกโลก ซึ่งได้เชิญตัวแทนจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) โดยนายไพรัตน์ ห่านศรีสุข อุปนายกสมาคมฯ พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสื่อมวลชน ได้นำข้อมูลเส้นทางพร้อมบันทึกภาพนำไปประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่าง ๆ สร้างการรับรู้และนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์เมืองน่าเที่ยวได้เป็นอย่างดี

         ด้านนางสาววรรณิภา เด่นโรจน์มณี นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงการเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ว่า “ในนามสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน อยากบอกว่าจังหวัดเราไม่ได้น่าเที่ยวเฉพาะช่วงอากาศเย็นเท่านั้น สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะหน้าหนาวที่ได้สัมผัสอากาศหนาวแตะหมอกเย็น ในตัวเมืองยังมีถนนคนเดินไทยหล่ม ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง วัดโพธิ์ทองที่เด่นเรื่องการขอพร สปาที่พุเตย ที่พลาดไม่ได้สำหรับที่เป็นหนึ่งในเรื่องศรัทธา เส้นทางสายมูมีท้าวเวสสุวรรณลอยฟ้า 9 รูป ตั้งอยู่ที่วัดป่าคาสามัคคี เชื่อว่าท่านมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

         การเดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวตามรอยพ่อขุนผาเมือง ภายใต้โครงการจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำในครั้งนี้ ยังได้พบแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย อย่างเมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลก ถนนคนเดินไทหล่ม ชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ณ พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ ดินแดนประวัติศาสตร์ ชุมชนบ้านห้วยโปร่ง อนุสรณ์สถานเมืองราดพ่อขุนผาเมือง เจดีย์พ่อขุนผาเมือง อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง กราบสักการะพระพุทธมหาธรรมราชา ณ พุทธอุทยานเพชบุระ ชมหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ไหว้ศาลหลักเมือง สถานที่ผ่อนคลายกับพุเตยสปา ที่อำเภอวิเชียรบุรี พร้อมรับประทานอาหารกับไก่ย่างชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์

          สำหรับประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกกล่าวขานเป็นตำนานมหัศจรรย์ที่ผ่านกาลเวลามาร่วม 500 ปี และยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อันเป็นรากเหง้าของชาวเพชรบูรณ์ ส่วนกิจกรรมประเพณีอุ้มพระดำน้ำในปีนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ตรงกับวันสารทไทย แรม 15 ค่ำ เดือน 10 เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ขอเชิญชวนประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมเดินทางมาชมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่ได้รับการยกย่องจากกระทรวงวัฒนธรรมให้เป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งในโอกาสที่เมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก จึงอยากให้ทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าระดับโลกแห่งนี้





#ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ

#จังหวัดเพชรบูรณ์เมืองน่าเที่ยว

#สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์

#ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์

#เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์

DMT เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านดินแดง ยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน สู่การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

         บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการทางด่วนที่สนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเจ้าแรก พร้อมเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง เพื่อยกระดับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่อผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข สำหรับรองรับผู้ใช้บริการที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยใช้ระบบ DC Fast charge ขนาด 120 กิโลวัตต์ หากแบตเตอรี่หมดก็ใช้เวลาชาร์จไฟโดยเพียง 15 นาที วิ่งต่อได้โดยแบตเตอรี่ไม่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข และยังอำนวยความสะดวกให้รถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต


          ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านดินแดง ว่า ในปัจจุบันนโยบายการลดมลพิษด้วยการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป้าหมาย Net Zero Emission ของประเทศ และบริษัทฯ มีนโยบายด้าน ESG ที่ดำเนินมาต่อเนื่องหลายด้าน ทั้งการเปลี่ยนรถยนต์ของบริษัทฯ เป็น EV ดังนั้นการติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กรณีประสบปัญหาประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่เหลือน้อย ไม่พอที่จะวิ่งบนเส้นทางได้ 2) เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากับผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ และรถปฏิบัติการของบริษัทฯ 3) เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของลูกค้าผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข 4) เพื่อช่วยลดควันพิษจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และมลพิษทางเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทางสามารถเดินทางถึงจุดหมายโดยไม่เสี่ยงที่จะแบตเตอรี่หมดบนทางยกระดับอุตราภิมุข ผู้ใช้ทางที่มีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ Tollway Call Center 1233 หรือ Line Official Account ของบริษัทฯ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับปรุงศูนย์อำนวยความสะดวกบริเวณอาคารด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ภายใต้แนวคิดอาคารลดโลกร้อน เพื่อเป็นจุดอำนวยการสำหรับผู้ใช้บริการ



         “นอกจากนั้นเพื่อรองรับรถปฏิบัติการของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนถ่ายจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถพลังงานไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยเปลี่ยนรถยนต์ผู้บริหารจากเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีเป้าหมาย 100% อีกทั้งสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในภาคขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ DMT ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และยังเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมภายนอกด้วย โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าสู่ Carbon Neutrality และสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ด้วยการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม” ดร.ศักดิ์ดาเผย


         ดร.ศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า เพื่อเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์อำนวยความสะดวก ให้ทันสมัย ประกอบไปด้วย ห้องพักอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการกรณีฉุกเฉิน ห้องสุขาพร้อมรองรับคนพิการ และระบบกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิก DMT บน Line Official Account @donmuangtollway ยังสามารถใช้แต้ม DMT แลกรับสิทธิ์ในการชาร์จไฟฟ้ากรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “3C Tollway EV Way” ประกอบด้วย Clean Energy, Convenient และ Comfortable เพื่อให้เป็นสถานีรูปแบบที่มีความสะดวกสบายและเน้นความเป็น Clean Energy สะท้อนวิถีชีวิตของผู้ใช้รถไฟฟ้าที่รักษ์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเภทการชาร์จของตู้ชาร์จไฟฟ้าเป็นแบบรวดเร็ว โดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Charger) ขนาดกำลังไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ 2 หัวชาร์จ

         นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย บริษัทฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านความช่วยเหลือ ดูแลผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข โดยมีทีมงาน DMT Smart Assistant  ประกอบไปด้วยพนักงานจัดการจราจร พนักงานกู้ภัย พนักงานปฏิบัติการพิเศษ และพนักงานรถยก ที่ทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการ (Operation Control Center : OCC) ประสานการทำงานกับระบบ กล้อง AI CCTV เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนทางยกระดับอุตราภิมุข ทีมงานเหล่านี้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ใช้ทางภายใน 12 นาที เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตลอดกว่า 2 ปี บริษัทฯ ได้พัฒนาความรู้และทักษะด้านระบบยานยนต์ไฟฟ้าและความปลอดภัย โดยมีวิทยากรชั้นนำของสถาบันยานยนต์ มาอบรมและเสริมเทคนิคการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากยานยนต์ไฟฟ้าทั้งการกู้ภัยและดับเพลิงให้ทีมงานเพื่อความพร้อมเข้าช่วยเหลือ ดูแลรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุขมั่นใจได้ในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

www.aboutinformant9.blogspot.com

kedsaraporn pnussuwonkiri

tel.095-5516-345